แฟนบอลคือส่วนสำคัญน้อยที่สุดในเรื่อง ของการตัดสินใจ
และมันชัดเจนว่าแฟนบอลคือส่วนสำคัญน้อยที่สุดในเรื่อง
ของการตัดสินใจ
ทั้งๆ ที่มันกระทบกับพวกเรามากที่สุด” ขณะที่แฟนบอลอย่าง มิเชลล์ จอร์จ เปิดใจถึงความผิดหวังในครั้งนั้นว่า “มันทำให้แฟนๆ ต้องใจสลาย ในฐานะแฟน พวกเราทุกคนใจสลาย มันอาจจะดูเหมือนละครแต่เราทุกคนเจ็บปวดภายใต้แอชลีย์ที่แทบจะไม่สนใจและลงทุนกับสโมสร “ดังนั้น จากข้อเท็จจริงถึงสิ่งที่เกิดขึ้นและกรอบระยะเวลาที่เกิดขึ้น และข่าวที่ออกมา เรายังมองไม่เห็นภาพที่ชัดเจนทั้งหมด” ถอยคนละก้าวเพื่อจะเดินไปข้างหน้าด้วยกัน
ความไม่ชัดเจนนั้นยังกินระยะเวลาต่อเนื่องยาวนานอีกหลายเดือนด้วยกันโดยไม่มีคำตอบใดๆ ในสายลม อย่างไรก็ดี เริ่มมีสัญญาณในช่วงที่ผ่านมาว่าทางด้านกลุ่มทุนยังไม่ได้ถอดใจ รวมถึงมีกระแสข่าวว่าทางการซาอุดีอาระเบียได้มีการติดต่อมายังรัฐบาลอังกฤษเกี่ยวกับเรื่องนี้ด้วย ซึ่งนำไปสู่กระแสข่าวการเจรจาที่จะกลับมาอีกครั้ง สิ่งที่แตกต่างไปจากเดิมคือครั้งนี้มีการแต่งหน้าแต่งตัวในการเจรจาใหม่ให้สามารถเป็นที่ยอมรับได้ในหลายประเด็น เช่น การลงนามว่าจะไม่มีการแทรกแซงการบริหารโดยรัฐบาลซาอุดีอาระเบีย มีการกันมกุฎราชกุมาร โมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน ในฐานะประธานของกองทุน PIF ไม่ให้เกี่ยวข้องกับการเจรจาทั้งทางตรงหรือทางอ้อม และเหตุผลอื่นๆ แต่ประเด็นใหญ่ที่สำคัญที่สุดที่ทำให้การเจรจากลับมาเดินหน้าได้อย่างจริงจัง คือการสะสางความขัดแย้งกับกาตาร์ด้วยการยกเลิกคำสั่งแบน beIN SPORTS ภายในประเทศที่มีมาอย่างยาวนานถึง 4 ปีครึ่ง
และให้คำมั่นว่าจะมีการดำเนินการเกี่ยวกับ beoutQ อย่างเด็ดขาด
และมีการติดต่อเพื่อจะขอชำระเงินค่าเสียหายราว 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐให้แก่กาตาร์ด้วย ทำให้ทางกาตาร์และ beIN SPORTS ไม่มีเหตุผลที่จะขัดขวางอีก เรื่องนี้ยังเป็นสิ่งที่ทำให้ทางด้านพรีเมียร์ลีกไม่มีสิ่งที่ติดค้าง และยกมาเป็นเหตุผลในการขัดขวางการเทกโอเวอร์ได้อีก เพราะในส่วนของประเด็นเรื่องการละเมิดสิทธิมนุษยชนที่ทาง Amnesty หยิบยกมานั้น
เป็นสิ่งที่อยู่นอกเหนือจากที่พรีเมียร์ลีกจะนำมาพิจารณาด้วยได้ สุดท้ายเมื่อทุกฝ่ายยอมถอยคนละก้าว ก็ทำให้สามารถเดินหน้าร่วมกันได้อีกครั้ง และนำไปสู่การออกแถลงการณ์จากทั้งฝ่ายของพรีเมียร์ลีก ฝ่าย PIF และสโมสรนิวคาสเซิล ยืนยันเรื่องการเทกโอเวอร์ และยืนยันเจตนารมณ์ว่าการเปลี่ยนแปลงเจ้าของครั้งนี้มีการตรวจสอบกลั่นกรองอย่างละเอียด และสางทุกปมความสงสัยที่สังคมตั้งคำถามได้ครบถ้วนแล้ว เป็นการสิ้นสุดกระบวนการเจรจาที่ยืดเยื้อและยาวนานกว่า 18 เดือนคำถามสำคัญที่หลายคนอยากรู้คือนิวคาสเซิล ยูไนเต็ด ที่ได้เจ้าของรวยที่สุดในโลกจะเป็นอย่างไรต่อไป? เช่นกันกับอนาคตของวงการฟุตบอลอังกฤษว่าจะออกไปในทิศทางใดกันแน่
เรื่องนี้ยังไม่มีคำตอบในเวลาอันรวดเร็วนี้ เนื่องจากยังมีสิ่งที่ทางด้านกลุ่มทุนใหม่ต้องดำเนินการสะสางอีกมากตั้งแต่การเปลี่ยนถ่ายกิจการ ไปจนถึงการเข้ามากำหนดนโยบายทิศทางการบริหารต่างๆ ใหม่ ซึ่งตรงนี้จะใช้ระยะเวลาสักพักหนึ่ง
ติดตามบทความข่าวสารอื่น ๆ เพิ่มเติมได้ที่ phsacca.com